ในโลกศิลปะโบราณ อารยธรรม Aksumite ในประเทศเอธิโอเปียร่วมสมัยกับจักรวรรดิโรมัน ถือเป็นแหล่งกำเนิดของงานศิลป์ที่งดงามและลึกลับ งานศิลปะจาก Aksumite มักจะสื่อถึงความมั่งคั่ง การปกครอง และความเชื่อทางศาสนาของพวกเขา ผ่านรูปสลักหิน สถาปัตยกรรม และเหรียญ
วันนี้ เราจะเดินทางไปยังอดีตเพื่อสำรวจหนึ่งในงานศิลปะที่โดดเด่นที่สุดของ Aksumite: Aksumite Obelisk หรือเสาหินแห่ง Aksum ความสูง 24 เมตร เสาหินนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้หินแกรนิตขนาดใหญ่ โดยไม่มีการใช้ปูนในการยึดติด
เสาหินแห่งอำนาจและศรัทธา
Aksumite Obelisk ไม่ได้เป็นเพียงเสาหินธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความศรัทธาของชาว Aksum
-
รูปทรงเรขาคณิตที่สมบูรณ์แบบ: เสาหินถูกสร้างขึ้นด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่สมบูรณ์แบบ โดยมีฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า และลำตัวเสาที่มีลักษณะกลม ปลายด้านบนของเสาหินถูกออกแบบให้เป็นส่วนโค้ง
-
ลวดลายและอักษรอักษัม: เสาหินนี้เต็มไปด้วยลวดลายแกะสลักที่ซับซ้อน รวมถึงอักษร Ge’ez ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ใน Aksumite
ความลึกลับของ Aksumite Obelisk
แม้ว่าเสาหินนี้จะเป็นผลงานศิลปะที่โดดเด่น แต่ความหมายที่แท้จริงของมันก็ยังคงเป็นปริศนา มีการตั้งทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของ Aksumite Obelisk
-
อนุสาวรีย์สำหรับกษัตริย์: บางคนเชื่อว่าเสาหินนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ให้กับกษัตริย์หรือผู้นำสำคัญของ Aksum
-
สัญลักษณ์ทางศาสนา: อีกทฤษฎีหนึ่งระบุว่าเสาหินนี้เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาของชาว Aksum โดยอาจเป็นที่บูชาพระเจ้าหรือเทพเจ้า
การเดินทางไกลกลับมาสู่เอธิโอเปีย ในปี 1970 รัฐบาลอิตาลีได้ถอด rời Aksumite Obelisk ออกจาก Aksum และนำไปติดตั้งที่กรุงโรม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
หลังจากการต่อสู้ทางการทูตอย่างยาวนาน Aksumite Obelisk สุดท้ายก็ถูกส่งกลับไปยังเอธิโอเปียในปี 2005 โดยได้รับการติดตั้งที่เดิม
ความสำคัญของ Aksumite Obelisk
Aksumite Obelisk ไม่เพียงแต่เป็นงานศิลปะโบราณที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของอารยธรรม Aksum และประวัติศาสตร์ของเอธิโอเปีย
คุณสมบัติเด่น | |
---|---|
วัสดุ | หินแกรนิต |
ความสูง | 24 เมตร |
รูปทรง | ฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ลำตัวกลม ปลายบนเป็นส่วนโค้ง |
ลวดลาย | อักษร Ge’ez และลวดลายแกะสลัก |
** Aksumite Obelisk เป็นอนุสรณ์ของอารยธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพยานถึงความสามารถทางศิลปะและวิศวกรรมของชาว Aksum**
งานศิลปะชิ้นนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจอดีตและรำลึกถึงความมหิทธิกรของอารยธรรมโบราณ